ภูกระดึง แดนในฝัน
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย ในแต่ละปีมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน. ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร (217,575 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร
ภูกระดึงมีธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวประทับใจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความสวยงามของการชมทิวทัศน์มาจากที่ราบสูง เช่น การชมพระอาทิตย์อัสดงที่ผาหล่มสัก, การสำรวจพรรณไม้นานาชนิด เช่น ไฟเดือนห้าที่แดงสด และดงป่าสนอันกว้างใหญ่, หรือธรรมชาติชนิดอื่น ๆ เช่น การชมน้ำตกที่น้ำตกขุนพอง เป็นต้น. ในช่วงวันหยุดยาว มักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงราวหนึ่งหมื่นคน โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มจะสามารถแบ่งการเที่ยวตามเวลาที่มีได้เช่น หากมี 4 วันที่ภูกระดึง คือเดินทางขึ้น 1 วัน ท่องน้ำตก 1 วัน เลียบผา 1 วัน ลง 1 วัน หากมี 3 วันก็เดินทางขึ้น 1 วัน เที่ยว 1 วัน ลง 1 วัน โดยเลือกท่องเที่ยวได้ หากมีสุขภาพที่ดีพอก็สามารถเดินเที่ยวเส้นน้ำตกพร้อมกับเส้นหน้าผาได้ภายในวันเดียว แต่จะไม่เหมาะกับผู้มีสุขภาพไม่ดีนัก
ประวัติ
คำว่า ภู มาจาก ภูเขา และชื่อ กระดึง มาจากคำว่า กระดิ่ง ในภาษาพื้นเมืองของจังหวัดเลย ด้วยเหตุนี้ ภูกระดึง จึงอาจแปลได้ว่า ระฆังใหญ่ ชื่อนี้มาจากเรื่องเล่าที่ว่าในวันพระ ชาวบ้านมักได้ยินเสียงกระดิ่งหรือระฆังจากภูเขาลูกนี้เสมอ จึงเล่าต่อกันไปว่าเป็นระฆังของพระอินทร์
ส่วนการค้นพบความสวยงามของภูกระดึงก็มีตำนานหรือเรื่องเล่าเช่นกัน โดยตำนานกล่าวว่ามีพรานป่าผู้หนึ่งได้พยายามล่ากระทิงซึ่งหลบหนีไปยังยอดเขาลูกหนึ่งในตำบลศรีฐาน (ปัจจุบันอยู่ในอำเภอภูกระดึง) ซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่เคยมีใครขึ้นมาก่อน เมื่อนายพรานได้ตามกระทิงขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนั้น ก็ได้พบว่าพื้นที่บนภูเขาลูกนั้น เต็มไปด้วยพื้นที่ราบกว้างใหญ่สวยงาม เต็มไปด้วยป่าสน พรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด หลังจากนั้นมนุษย์ก็เริ่มรู้จักและเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับภูกระดึง
การเดินทาง
รถทัวร์
โดยทั่วไปหนทางที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวคือให้นักท่องเที่ยวลงจากรถทัวร์ที่ผานกเค้า ณ ร้านเจ๊กิม. จากนั้นนักท่องเที่ยวก็ติดต่อรถสองแถวหน้าร้านเจ๊กิมเพื่อเดินทางไปที่ที่ทำการอุทยาน โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว ราคาก็ไม่แพง คนละ 25 บาท
รถทัวร์จะมีของบริษัทขนส่ง และแอร์เมืองเลย
• พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
• ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีหลายชนิด เช่น ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบเขา และป่าสนเขา มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ได้แก่ เต็ง รัง พลวง แดง มะค่า ยมหอม มะเกลือ ตะแบก สมอ รกฟ้า พญาไม้ สนสามพันปี จำปีป่า ทะโล้ เมเปิ้ล สนสองใบ และสนสามใบ ก่อชนิดต่าง ๆ ใน ทุ่งหญ้ามีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม ออกดอกบานสะพรั่งสลับกันไปตามฤดูกาล เช่น กุหลาบป่า เทียนน้ำ มณเฑียนทอง แววมยุรา กระดุมเงิน เทียมภู ส้มแปะ เง่าน้ำทิพย์ ดาวเรืองภู หยาดน้ำค้าง และกล้วยไม้ ซึ่งบางชนิดชอบขึ้นตามลานหิน ได้แก่ ม้าวิ่ง เอื้องคำหิน ส่วนไม้พื้นล่างมีเฟิร์น มอส โดยเฉพาะ ข้าวตอกฤาษี ซึ่งเป็นมอสขนาดใหญ่สวยงามที่สุดและมีอยู่เป็นจำนวนมาก ภูกระดึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุมเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าภูกระดึงมีหลายชนิด เช่น ช้าง เสือโคร่ง หมีควาย เลียงผา เก้ง กวาง หมูป่า ชะนี บ่าง พญากระรอก หมาไน ส่วนนกชนิดต่าง ๆ ที่พบเห็นได้แก่ นกกางเขนดง นกจาบกินอกลาย นกกระทาทุ่ง นกพญาไฟใหญ่ นกขมิ้นดง และมีเต่าชนิดหนึ่งซึ่งหาได้ยาก คือ เต่าปูลู หรือ “เต่าหาง” เป็นเต่าที่หางยาว อาศัยอยู่ตามลำธารในป่าเขาระดับสูงของประเทศไทย กัมพูชา และลาว
หม้อข้าวหม้อแกงลิง ใบเมเปิ้ลภูกระดึง
• แหล่งท่องเที่ยว
-ผานกแอ่น
-ผาหล่มสัก
-สระแก้ว
-สระอโนดาด
-น้ำตกเพ็ญพบใหม่ -น้ำตกตาดร้อง
-น้ำตกวังกวาง
-น้ำตกถ้ำใหญ่
-น้ำตกธารสวรรค์
-น้ำตกโผนพบ
-น้ำตกพระองค์
-น้ำตกสอเหนือ
-น้ำตกสอใต้
แหล่งข้อมูลอื่น
เว็บไซต์อุทยานแห่งชาติของกรมอุทยาน
เว็บไซต์ของเทร็คกิ้งไทย
เว็บไซต์ Phukradung.com
บล็อกเกี่ยวกับภูกระดึง
ที่มา: http://th.wikipedia.org/
http://www.oceansmile.com/E/Leo/LeaForest3.htm
Download: จิ้มเลยจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น